25 July 2014

เกร็ดเล็กน้อยในสนามบิน

หลังลงจากเครื่อง..นอกจากรับกระเป๋า ผ่านตม.แล้ว ขอให้เพื่อนๆเดินต่ออีกนิดไปเข้าห้องน้ำด้านนอกซึ่งว่างกว่ามาก (แอดมินรีวิวอะไรเนี่ย><;) ก็ไปถึงสนามบินมันมีอะไรต้องทำเยอะนี่นา (รูปสวยๆรอรีวิวตอนออกจากสนามบินนะ^^)

หัวข้อวันนี้: "เหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่ขอรีวิว" 55+ เช่น ตอนโหลดกระเป๋าถ้ากลัวกระเป๋าพังก็บอกพนักงานให้แปะ Fragile ทุกครั้ง (ก็เค้าไม่คิดตังค์เพิ่มนิ ψ(`∇´)ψ)

กระเป๋าไม่เกิน 20" เหมาะกับการเที่ยวด้วยตัวเองที่สุด ก็ทั้งเครื่องบิน รถไฟ สามารถยกขึ้นที่เก็บของเหนือศีรษะได้ ใส่ล็อคเกอร์ขนาดกลางก็ได้ (บางสถานีไม่มีล็อคเกอร์ขนาดใหญ่ หรือบางทีขนาดใหญ่ชอบเต็มนะ)

ลักษณะกระเป๋าเป็นเป้ก็ดีแต่เมื่อยหน่อย (ต้องดูแผนการเที่ยวด้วยว่าเหมาะมั้ย) ส่วนแบบลากก็มีข้อเสียตอนแบกขึ้นลงบันไดสถานี (ไม่รวมตอนเที่ยว เพราะระหว่างเที่ยวก็ใส่ล็อคเกอร์ไว้ดีกว่า) ถ้ากระเป๋าลากได้ด้วยมีสายเป้ได้ด้วยจะดีฝุดๆ แบบ4ล้อก็ดีตอนเดินในรถไฟ หรือที่ที่คนเยอะก็ไม่เกะกะ แต่เวลารถแน่นๆกระเป๋า 2ล้อก็เอามานั่งได้ เวลาวางไว้เฉยๆก็ไม่ต้องกลัวไหล 55+

แอดมินเอารูปรถไฟฮอกไกโดช่วงเสาร์อาทิตย์มาให้ดู ก็ต้องยืนอย่างงั้นแหล่ะ คนทะลักถึงประตู ทะลุถึงห้องน้ำ ทะเละถึง.. ><; บางขบวนไม่มีตู้จองหรือจองไม่ได้ก็ต้องรีบไปต่อแถวที่ชานชาลากันนะ 

ถ้าใครจะซื้อ JR pass (สำหรับนั่งรถไฟ JR unlimit) ก็ต้องซื้อจากไทยไปนะ (passอื่นๆส่วนใหญ่ซื้อในญี่ปุ่นได้) เวลาซื้อเราจะได้เป็น'ตั๋วสำหรับแลก' พอบินไปถึงญี่ปุ่นเราค่อยเอาไปแลกเป็น JR pass อีกที ซึ่งตั๋วสำหรับแลกนี้มีเวลาแค่ 90วันนะ (ระวังอย่าซื้อล่วงหน้านานเกิ๊น!)

บางสนามบินมีเคาเตอร์ให้แลก บางสนามบินต้องยอมควักค่ารถไฟเข้าเมืองไปก่อนนะ ซึ่งถ้าดูในเว็บก็จะมีบอกว่าแลกที่ไหนได้บ้าง แต่ละที่เปิดกี่โมง

JRpass จะบอกวันที่เริ่มใช้ที่เราเลือกไว้กับวันหมดอายุ รวมถึงบอกเงื่อนไขการใช้ ซึ่งพนักงานตรวจตั๋วในรถไฟแถบ 'บ้านนอก'บางคนอาจไม่รู้จัก แล้วจะมาเก็บเงินเราก็อย่าไปยอม ให้โชว์ด้านภาษาญี่ปุ่นให้เค้าอาจซร่ะ ><; แอดมินเคยเจอเค้าก็วอร์ๆคุยกันชาติเศษ สุดท้ายโอเค แต่ไม่มีขอโทษซักคำ..ให้ยืนรอตั้งนาน ชิ!

แต่ที่New Chitose Airportแห่งนี้มีเคาเตอร์ "Midori no Madoguchi" ที่เป็นรูปคนสีเขียวนั่งแบบที่แอดมินแปะรูปแปะให้ดู เห็นสัญลักษณ์นี้ก็เข้าไปแลก JRpass รวมทั้งreserve รถไฟรอบที่เราplanมา โดยเอาhyperdiaที่เราพิมพ์ไว้ให้พนักงานดู โดยเผื่อเวลาการแลก JRpass กับสำรองที่ไว้ซักครึ่งชั่วโมงนะ เพราะบางทีต่อแถวนาน บางทีคนเยอะเค้าก็จะไม่ให้ reserveที่ 

สุดท้าย JR pass และ passport ต้องเอาไว้ติดตัว และห้ามหายเด็ดขาด!! 

รายละเอียดและเงื่อนไขอื่นๆของ JRpass (อีกเยอะ) ดูได้ที่ http://www.japanrailpass.net


23 July 2014

Doraemon Wakuwaku Sky Park



สวัสดีค่า!! ย่องมารีวิวก่อนตี3อีกแล้ว^^ คืนนี้แอดมินจะพาย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งด้วยการ์ตูนที่รู้จักกันดี 'โดราเอมอน'จ้า! ใครไม่รู้จักแล้วไปดูภาคที่ฝรั่งทำขึ้นใหม่ตอนนี้อาจเห็นทานูกิสีฟ้าของเรากลายเป็นแมวน้ำ 'โนบิ'ถือส้อมแทนตะเกียบ (แอดมินดูตอนแรกไปแล้วก็ไม่ได้แย่นะ สนุกเหมือนเดิมจ้า!)

กลับมาที่รีวิวทริปของเรา ซึ่งแอดมินยังอยู่ในสนามบินนิวชิโตเซ ชั้น3 (มีเวลาพอสมควรเพราะต้องรอรถไฟ><) เดินต่อใน Smile Road ซึ่งเชื่อมฝั่งในประเทศกับฝั่งระหว่างประเทศก็จะพบกับ "Doraemon Wakuwaku Sky Park" สวนสนุกเล็กๆที่จะเติมเต็มวันดีๆขึ้นมาได้ทั้งวัน 

ด้านหน้ามีเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ ก็กดไปเลยคนละ 600เยน มีปุ่มเลือกเป็นภาษาอังกฤษจ้า! (แต่ถ้าไปเจอที่อื่นซึ่งตู้เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน แล้วอยากซื้อตั๋วราคาผู้ใหญ่ธรรมดาก็ให้ลองเลือกอันบนซ้ายสุด ส่วนใหญ่จะใช่ 55+)

พอเดินเข้าประตูไปด้านในแอบเล็กๆนะ แต่มีเด็กๆเต็ม ส่วนใหญ่เป็นโซนให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด จริงๆเค้าให้บัตรถ่ายภาพรวมกับพี่โดราเอม่อนมาด้วย แต่ดูเหมือนถ้าแอดมินรอถ่ายรูปก็จะตกรถไฟ เลยต้องบายจ้า T.T

จริงๆมีโซนด้านนอกด้วยนะ แต่น่าจะเหมาะเป็นที่วิ่งเล่นของเด็กๆมากกว่า (ใครพาลูกไปแนะนำเลยนะ) แอดมินเลยเดินต่อไปเรื่อยๆก็เจอโซน 'Royce Chocolate World' ซึ่งมีทั้งร้านของฝาก และโซนเครื่องจักรที่โชว์ให้เห็นความลับการผลิตช็อกโกแล็ตที่อร่อยเทพยี่ห้อนี้ (ดูเพลินมากเกือบตกรถไฟอีกเช่นกัน)^^















22 July 2014

Toya Lake



วันนี้ขับรถเที่ยวใน Toya, Hokkaido ฟินส์ค่าา.. ( ^ω^ )

21 July 2014

รีวิวทริป Unseen Japan (21-29 June 2014) // Smile road



สวัสดีค่ะ! คืนนี้ได้ฤกษ์รีวิวทริป unseen ล่าสุดอย่างเป็นทางการซร่ะที 55+ (ไปตั้งแต่ 21-29 มิ.ย.แล้ว พึ่งหาฤกษ์ได้><;) ใครที่พึ่งไลค์เพจเข้ามาใหม่ก็บอกได้เลยว่าแอดมินอัพเพจดึกมากก..ก รีวิวยาวมากก..ก ก็ไม่อยากจะเหมือนใคร ทั้งเนื้อหา ทั้งstyle 55+ (เข้าconcept เที่ยวญี่ปุ่นตามใจ by Japan Lover ไง ^^)

แอบอัพรูปเบาๆวันละนิดพอนะ แต่จะแชร์ความสนุกหรือประสบการณ์&เทคนิคการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองใส่ให้แทนจ้า 

เริ่มด้วยแอดมินจองตั๋วล่วงหน้า 3เดือนได้ คือซื้อตั๋วทุกอย่างที่ซื้อได้เพราะตอนนั้น Vat มันยัง5%อยู่ (ตอนนี้ขึ้นเป็น8% ปีหน้าไม่รู้เป็น10%ปล่าว?) โรงแรมก็จองด้วยนะเพราะจำนวนคนที่ไปเป็นเลขคี่ ถ้าจองกระชั้นชิดห้องนอนแบบ 3คน (ถูกๆ) จะหายาก!

และแล้วก็ถึงวันบิน (คืนวันที่21) ถึง New Chitose Airport เช้าวันที่22 (ด้วยตั๋วบินตรงของการบินไทย ถึงเวลาดี8.30น. ไม่มีดีเลย์จ้า!) ซึ่งพอถึงสนามบินเพื่อนๆของแอดมินก็ขอเวลาเสริมสวยแทนการเที่ยวจร้า ><; แอดมินผู้ไม่ได้planเรื่องนี้มาก่อนเลยต้องเที่ยวเองตั้งแต่ก้าวแรก 55+

เดินเล่นชั้น3 ของสนามบิน "Smile Road" ดูของฝาก Hello Kitty, Steiff อะไรไปเรื่อย จนมาเจอแถว (ยาวมาก) หน้าร้านราเมงแห่งหนึ่งทั้งๆที่ร้านข้างๆเงียบเหงา ก็สำนึกได้เลยว่าตัวเองถึงญี่ปุ่นแว้ว!!

ก็คนญี่ปุ่นเค้าจะกินเฉพาะร้านที่อร่อยหน่ะสิ แอดมินไม่ศรัทธากับร้านคนเยอะเลยต้องผิดหวังบ่อยๆ 55+ ดังนั้นถ้าใครมีเวลาแอดมินแนะนำให้ต่อแถวดีกว่านะ

เกือบลืมบอกว่านี่คือโซน "Hokkaido Ramen Dojyo" ซึ่งรวบรวมราเมงร้านดังมาไว้ที่สนามบินแห่งนี้ แถวยาวๆนี่มาจาก Ebisoba Ichigen คนเยอะมั๊ก บ่งบอกความอร่อย!!







20 July 2014

Fruit picking

แอดมินพึ่งจะรู้ว่า'เชอรี่สด'รสมันไม่เหมือนเชอรี่บนไอติม Swensen's! (ー ー;) โอ้ ฉันพลาดของอร่อยไปเพียบ!

ถ้าไปญี่ปุ่นฤดูร้อนเพื่อนๆก็จะได้เพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้กินสดๆในสวนแบบบุ๊ฟเฟ่ต์ค่ะ ^^ ซึ่งแอดมินเอาบรรยากาศสวนแห่งนึงในเมือง Niki มาให้ดู (ขับรถไปซัก 20นาทีจาก Otaru)

เค้าจะเอาผลไม้มาวางเรียงให้ผู้ที่ผ่านไปมาเลือกซื้อได้ มีพนักงานขายตั๋ว (บางที่ก็คนขายผลไม้ หรือเจ้าของสวนนั่นแหล่ะคนเดียวกัน) บางที่ไม่มีตั๋ว แค่จ่ายเงิน เค้าก็จะให้อุปกรณ์ พร้อมแนะนำว่าตอนนี้มีอะไรกินได้ วิธีเก็บยังไง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นออแกนิค คือเก็บแล้วกินได้เลย ไม่ต้องล้าง!!!

แม่เจ้า'ออแกนิค'แอดมินเข้าใจค่ะ แต่ไม่ล้างเนี่ย แอดมินเหว๋อ! เพราะบางทีมีใยแมงมุม เค้าก็แค่ใช้มือรูดออก กรี๊ด! แถมยังมีการบอกอีกนะว่าอันที่มีแมงมุมจะอร่อย 55+ แต่ก็จริงค่า! แอดมินชิมองุ่นทั้งสวน อันที่อร่อยคือที่มีแมงมุมจริงๆ (>_<)

แล้วก็ค้นพบวิธีกินองุ่นออแกนนิคด้วยค่ะ คือตัดลงมาทั้งพวง เด็ดมาเป็นลูก เอาด้านจุกมาจ่อปาก แล้วบีบเข้าปากเลย ไม่ต้องนั่งแกะเปลือกทีละลูกให้เสียเวลา 55+

ราคาบุ๊ฟเฟ่ต์ผลไม้แบบนี้มีตั้งแต่ 500-1000เยน (วันนั้นแอดมินเลือก 700เยนเอาสวนที่มีแต่องุ่นหลายๆพันธุ์ เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าเชอรี่จะอร่อยงี้ แงๆ ><;) 

ราคาขึ้นกับว่าสวนนั้นมีอะไร บางสวนมีแค่อย่างสองอย่างอาจถูกหน่อย บางสวนที่มีผลไม้ให้เลือกกินได้หลายชนิด หรือวิวดี หรือชื่อดังราคาก็จะแพงขึ้น ซึ่งที่ญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้ยาเร่งแบบไทยนะคะ ดังนั้นถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงผลไม้ก็อาจออกผลช้าหรือเร็วกว่าปกติได้ค่ะ

ล่าสุดแอดมินไป Sobetsu (ขับรถ15จาก Toya St.) แต่วันนั้นสตอรเบอรี่ดันเล็กอยู่ซระงั้น ><; สวนอื่นเช่น สวนลูกแพร์หรือส้มของ Wakayama ก็ดังนะ แต่กลัวกินลูกเดียวอิ่มเดี๋ยวไม่คุ้ม  เลยไม่ไปดีกว่า แฮะๆ 

สุดท้ายก่อนกลับไทยเลยซื้อเชอรี่มาแพ็คนึง 700เยน ส้ม3ลูก 200เยน บลูเบอรรี่แพ็คนึง 500เยน กินแล้วฟินน์เหมือนกัล 55+