จักรยานไฟฟ้า @ Biei

สิ่งแรกที่ทำเมื่อถึงBieiคือไปร้านเช่าจักรยานค่ะ วิวที่นี่ฟินน์มาก^^ แต่ขอแนะนำเป็นจักรยานไฟฟ้าแบบรูปที่2นะ ไม่งั้นอาจหมดแรงจากการจูงจักรยานขึ้นเนินแทน O>-<

จักรยานไฟฟ้าเนี่ย เวลาขึ้นเนินให้ถืบเล็กน้อยก็จะเหมือนกับมีใครมาเข็นช่วยเรา ส่วนตอนลงเนินค่อยปล่อยไหลได้

จักรยานไฟฟ้าถือกำเนิดมาเมื่อ20ปีที่แล้ว รุ่นแรกยังมีpowerอยู่ที่ก้านตรงกลาง แต่เนื่องจากผู้หญิงญี่ปุ่นชอบใส่กระโปรงสั้นขี่ ทำให้การขึ้นลงจักรยานของผู้หญิงทำได้ยาก ดังนั้นกล่องpowerรุ่นปัจจุบันถึงเลื่อนไปอยู่ใต้อานแบบในรูป

จริงๆครั้งนี้แอดมินไม่ได้ปั้น แต่ให้เพื่อนๆบางคนไปปั่น ก็แอดมินพึ่งปั้นไปปีที่แล้วยังไม่หายเหนื่อยเลย ><; (ปีที่แล้วเล่นปั่นแบบไม่มีmotorแบบในรูปแรกง่ะ!)

พอส่งเพื่อนๆเช่าจักรยานก็ขับรถต่อ พาเพื่อนๆกลุ่มที่เหลือเข้าป่ากัน 55+
ส่วนจะเป็นที่ไหนติดตามต่อตอนหน้านะ

ส่งแต่รูปทางที่ขับรถไป และจุดหมายแว๊บๆ ^v^

Cr.: yamaha-motor.co.jp (6 photos)

NOC และการเช่ารถขับในญี่ปุ่น (Hokkaido)

ออกจาก Sapporoแต่เช้า ไปAsahikawa เพื่อรับรถNissan สีดำคันนี้ ก่อนขับลงมาBiei&Furano><;
ตารางถูกจัดแบบนี้ต้องมีเหตุผลอยู่แล้วค่า!!
ใช่แล้ว..! เพราะการเช่ารถที่ญี่ปุ่นนอกจากจะดูเรื่องราคาแล้ว ยังต้องดูเรื่อง "ประกัน" ด้วย.. ^o^

จากวันนี้แอดมินจะใช้รถคันนี้ระยะไกล 2วันเต็ม ซึ่งเลือกจองผ่าน www.timescar-rental.com เพราะTimes เป็นเจ้าเดียวในละแวกนี้ที่มีประกันแบบที่ coverค่า NOCด้วย

NOCคือ ค่าเสียหายเบื้องต้นที่เราต้องจ่ายทุกกรณีหากรถเกิดเหตุ หรือเรียกง่ายๆ คือค่าทำความสะอาดรถหลังเกิดอุบัติเหตุ

ถ้ารถขับมาส่งคืนไหวก็เสีย 20,000เยน ถ้าต้องให้เค้าไปลากด้วยก็เสียเพิ่มเป็น 5หมื่น

และไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยแค่ไหน ก็ต้องแจ้งตำรวจด้วย ไม่งั้นประกันไม่รับผิดชอบ

ซึ่งประกันส่วนใหญ่จะไม่รวม NOCค่ะ (คือแม้คุณทำประกันคุณก็ยังต้องจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น หรือNOCนี้ค่ะ) แต่ที่Timesนี้ เค้ามีประกันให้เลือก (แพงขึ้นอีกนิด) แต่เมื่อเกิดเหตุ เราไม่ต้องจ่ายค่า NOC อีกแล้ว!

สรุปแอดมินเลยต้องดั้นด้นไปให้ถึงAsahikawa เพื่อรับรถเช่าคันนี้ แล้วค่อยขับลงมาBiei แต่เส้นทางนี้ก็ไม่แย่นะ (จริงๆถนนดีด้วย..แบบในรูป) ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเองก็ถึงละ

ส่วนBieiมีอะไร? ไว้มารีวิวต่อตอนหน้าน้า!!!!

วิธีกินขาปูยักษ์ที่ร้านบุ๊ฟเฟ่ต์ปู Nanda

หลังจากรอคิว 2.5ชม.ก็จัดเต็มด้วยบุ๊ฟเฟ่ต์ปูปิ้ง 2ชม.เต็ม (หิวจัด ><;) ซึ่งพี่น้องชาวไทยอาจเข้าร้านนี้ได้ยากขึ้น เพราะวันนั้นแอดมิน(และเพื่อนๆ) จัดปูซร่ะจนพนักงานต้องมีถังพิเศษมาใส่ซากปู 4ถังเต็ม! 55+

ร้านนี้ชื่อ'Nanda' ฮิตมากในหมู่คนไทย ถึงขนาดเดินเจอเพื่อนคนไทยอย่างไม่ได้นัดหมาย ทัวร์ไทยก็ลง เสียงคุยภาษาไทยดังซะจนเค้าต้องจับไปรวมไว้โซนเดียวกัน 55+

เหตุผลที่ชอบร้านนี้เพราะเป็นบุ๊ฟเฟ่ต์ปูปิ้งไง (ที่อื่นจะเป็นปูต้มซะส่วนใหญ่) กลิ่นปูปิ้งจะหอมมาก แถมเตาที่นี่ก็ร้อนเร็ว ล่าสุดกินคุ้มขึ้นเพราะแกะปูคล่องขึ้น^^

วิธีกินขาปูยักษ์ที่ร้านบุ๊ฟเฟ่ต์ปู Nanda
1. เลือกปูมาปิ้งบนเตา
2. เช็ดมือให้สะอาดด้วยผ้าที่เค้าแจกให้
3. สุกแล้วก็คีบขึ้นมา (สุกเมื่อหอม 55+)
4. ใช้ผ้าจากข้อ2. ถือปูขึ้นมาแบบขนาน ใช้กรรไกรตัดนำเล็กน้อยตรงเกือบโคน (3-5เซนแล้วแต่ปู) แล้วใช้มือหักต่อ (ไปปีก่อนมีถุงมือผ้าให้นะ แต่ปีนี้ไม่มีเลยใช้ผ้ากันร้อนแทน)
5. วิ้ง! ปูสวยๆออกมาแว้ว..

ปีนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนะ เพราะมือไม่ว่าง (กำลังทำลายสถิติอยู่ 55+) ขอรีวิววิธีกินแทน ^v^ ดูรีวิวเก่าเรื่องวิธีเดินทางไปและของกินอื่นๆในร้าน Nanda ได้ที่นี่จ้า! http://japanbylover.blogspot.com/2014_05_01_archive.html

กินเสร็จก็เดินช้อปปิ้งผึ่งพุงที่ Susukino เดินถึง Odori Park & Tanuki Koji นั่นแหล่ะ (สงสัยต้องเดินยันเช้า ถึงจะย่อยปูหมดXD)

Noria Ferris Wheel @ Susukino

ถึง Sapporo ด้วยความหิว! วิ่งไปร้านปูร้านเดิมที่ Susukino แต่คิวเต็มซร่ะงั้น ><; แงๆ รออีก2ชั่วโมง

เลยขอจัดวิว twilight บนยอดเหนือขึ้นไปบนตึก Norbesa ด้วย "Noria Ferris Wheel" (คนละ600yen) โรแมนติกมั้กๆ ^///^

สำหรับใครที่พึ่งมา..
ขณะนี้แอดมินกำลังรีวิว Unseen Trip (21-29 June 2014) อยู่นะคะ ซึ่งวันนี้พึ่งจะวันที่ 23จ้า! ติดตามความสนุกได้ต่อตอนหน้านะคะ ^o^

รูปปั้นเดวิว @ Noboribetsu

ก่อนออกจาก Noboribetsu ก็เดินเล่นดูรูปปั้นเดวิวไปก่อนนะ ^^ มีทั้งเดวิวด้านการเรียน ความรัก และอีกหลายๆตัวทั่วเมือง

และที่ใกล้ๆสถานีรถไฟยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Marine Park NIXE ที่รวมสัตว์น่ารักๆไว้เต็ม (แต่คราวนี้แค่ผ่านชม เพราะปีที่แล้วเข้าไปแล้ว 55+)