31 July 2014

showashinzan



ถ่ายShowashinzan ให้เห็นไอฟุ้งชัดๆจากด้านล่างropeway และแถวนี้ของกินอร่อยเลยต้องจัดซะก่อน o(^▽^)o

เริ่มด้วย'ชิโซะราเมงหมูชาชู'น้ำซุปกลมกล่อมสุดยอด! ต่อด้วยไอศกรีมเมลล่อน (ดูสาวกดไอศกรีมฟินส์ๆ^^) 




30 July 2014

Usuzan & Showashinzan



ออกจากสนามบินแอดมินนั่งรถไฟไปToya St.ค่ะ รับรถที่เช่าไว้ตรงสถานีนั่นแหล่ะแล้วขับไปShowashinzan ซึ่งเป็นภูเขาไฟเกิดใหม่ (ยังมีควันปุ๋ยๆอยู่เลย ><;)
เดินต่อไปอีกนิดเพื่อขึ้น Ropeway ไป Usuzan ซึ่งจุดที่สวยที่สุดจะอยู่กลางทางค่ะ เป็นวิ...วทะเลสาบโทยะที่ฉากหลังเป็นภูเขาไฟ Yotei (ตอนแอดมินไปยังมีหิมะเหลือกิ๊ฟๆ ฟินน์เวอร์:)

ด้านบนเดินทางขวาจะมีจุดชมวิว และที่ให้โพสท์ท่าถ่ายรูปคู่กับ Showashizan ได้

ส่วนด้านซ้ายมีทางเดินขึ้นเขาเพื่อไปชมปากปล่อง Usuzan มองเห็นเมือง และทะเลด้านล่าง ซึ่งวันนั้นเป็นทะเลหมอกด้วย ฟินน์ไปอีกแบบ ^^

(ไว้วันหลังค่อยรีวิวเรื่องรถเช่านะ ข้อมูลเยอะเดี๋ยวหลับ 55+)

สำหรับใครที่พึ่งเปิดเข้ามา..
ขณะนี้แอดมินกำลังรีวิว Unseen Trip (21-29 June 2014) อยู่นะคะ ซึ่งวันนี้พึ่งจะวันที่ 22จ้า! ติดตามความสนุกได้ต่อตอนหน้านะคะ ^o^






28 July 2014

Wifi router & Free Wifi password



สวัสดีค่า!! แอดมินขอรีวิวการรับWifi routerและรหัส 'wifiฟรี' ก่อนฟิวว์ออกจากสนามบินนะ <♥

ช่วงนี้ได้ข่าวว่าญี่ปุ่นเพิ่มจุด 'wifiฟรี' ให้นักท่องเที่ยวกว่า 2หมื่นจุด ซึ่งติดต่อรับpassword ได้ที่สนามบินเป็นต้น (ที่นี่แอดมินรับที่เดียวกับที่แลกJRpassนั่นแหล่ะ) ถ้าเจอสัญญาณwifi ก็ใส่รหัสใช้ได้เลย แต่บางที่ก็ไม่ต้องใส่ password นะ ( ^ω^ )

ซึ่งสัญญาณwifiที่สัมผัสได้ แอดมินคิดว่ายังไม่ค่อยพอ ><; คือส่วนใหญ่อยู่ที่สถานีรถไฟหลักๆ แต่ที่ที่เราต้องการใช้คือตอนที่เรากำลังหาสถานี (หลง) ไม่ใช่หรอ?!? 55+

แอดมินเลยจองwifi routerแทนจ้า! ที่จองไปเป็นของwww.wifi-hire.com ซึ่งแอดมินใช้มา 2ครั้งละ ก็okนะ..บริการดี (จริงๆทริปล่าสุดไม่ได้เลือกรุ่นที่แปะมาให้ แต่ขอไม่แนะนำรุ่นนั้นนะเพราะโควต้าต่อวันน้อย ไม่รู้เพราะไปหลายคนรึปล่าว พอใช้ไปครึ่งวันspeedตก เล่นได้แต่Line >< ดังนั้นเลือกรุ่นที่แอดมินแปะรูปมาให้นะ)

ที่เลือกของที่นี่นอกจากราคาแล้ว หลักๆแอดมินดูที่ความรับผิดชอบในกรณีอุปกรณ์เสียหรือสูญหาย (บางที่ให้เราจ่ายเต็มเลย T.T) แต่อันนี้เค้าส่งของใหม่มาแทนให้ด้วย แถมสั่งเครื่องเช้าให้มาส่งถึงโรงแรมเย็นๆก็ได้ ค่าส่ง(ขารับของ)ก็ไม่ต้องจ่าย จ่ายแต่ตอนคืนซึ่งก็ง่ายมาก โดยเอาของทั้งหมดที่มียัดใส่กล่อง&แปะที่อยู่ที่เค้ามีให้ แล้วส่งที่ 7-eleven ^o^

ยี่ห้อนี้ดีอีกอย่างตรงมีSkype ไว้คุยกับเจ้าหน้าที่ (เป็นภาษาอังกฤษ)เวลาเจอปัญหา ถ้าเป็นสมาชิกบางทีเค้าก็มีส่วนลดส่งให้ วิธีจองใช้บัตรเครดิตจองผ่านเว็บได้เลย แต่แอดมินขอแนะนำรุ่นที่แปะรูปให้นะ เวลาเข้าป่ามากๆหรือนั่งรถไฟผ่านอุโมงค์สัญญาณอาจไม่มี แต่โดยรวมเน็ทแรงมาก แบทเสียบกับpower bankได้ แชร์ได้10เครื่อง ^o^

ที่สนามบินชิโตเซแห่งนี้แอดมินรับเครื่องที่แมวดำเลย (เผื่อใครไม่รู้แมวดำคือชื่อบริษัทขนส่ง 'Yamato' แต่เป็นรูปแม่แมวดำคาบลูกอยู่) ถ้ารับเครื่องที่สนามบินเสียเงินเพิ่มอีกหน่อย แต่ถัวกับส่วนลดที่ได้มาก็โอ 55+ ทริปล่าสุดจ่ายไป 6,005yen (ใช้ได้10วัน) แต่ช่วงนี้เข้าwebเห็นมีปรับราคาเพิ่มหน่ะ แต่ดูๆแล้วก็ยังถูกกว่าหลายเจ้าที่ไทยนะ

นอกนั้นแผนสำรองคือการจองโรงแรมที่มี wifiจ้า! บางที่อาจมีเฉพาะlobby แต่ก็ดีกว่าไม่มีนะ แฮะๆ o(^▽^)o

ดูข้อมูล wifiฟรีต่อได้ที่ www.flets.com




25 July 2014

เกร็ดเล็กน้อยในสนามบิน

หลังลงจากเครื่อง..นอกจากรับกระเป๋า ผ่านตม.แล้ว ขอให้เพื่อนๆเดินต่ออีกนิดไปเข้าห้องน้ำด้านนอกซึ่งว่างกว่ามาก (แอดมินรีวิวอะไรเนี่ย><;) ก็ไปถึงสนามบินมันมีอะไรต้องทำเยอะนี่นา (รูปสวยๆรอรีวิวตอนออกจากสนามบินนะ^^)

หัวข้อวันนี้: "เหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่ขอรีวิว" 55+ เช่น ตอนโหลดกระเป๋าถ้ากลัวกระเป๋าพังก็บอกพนักงานให้แปะ Fragile ทุกครั้ง (ก็เค้าไม่คิดตังค์เพิ่มนิ ψ(`∇´)ψ)

กระเป๋าไม่เกิน 20" เหมาะกับการเที่ยวด้วยตัวเองที่สุด ก็ทั้งเครื่องบิน รถไฟ สามารถยกขึ้นที่เก็บของเหนือศีรษะได้ ใส่ล็อคเกอร์ขนาดกลางก็ได้ (บางสถานีไม่มีล็อคเกอร์ขนาดใหญ่ หรือบางทีขนาดใหญ่ชอบเต็มนะ)

ลักษณะกระเป๋าเป็นเป้ก็ดีแต่เมื่อยหน่อย (ต้องดูแผนการเที่ยวด้วยว่าเหมาะมั้ย) ส่วนแบบลากก็มีข้อเสียตอนแบกขึ้นลงบันไดสถานี (ไม่รวมตอนเที่ยว เพราะระหว่างเที่ยวก็ใส่ล็อคเกอร์ไว้ดีกว่า) ถ้ากระเป๋าลากได้ด้วยมีสายเป้ได้ด้วยจะดีฝุดๆ แบบ4ล้อก็ดีตอนเดินในรถไฟ หรือที่ที่คนเยอะก็ไม่เกะกะ แต่เวลารถแน่นๆกระเป๋า 2ล้อก็เอามานั่งได้ เวลาวางไว้เฉยๆก็ไม่ต้องกลัวไหล 55+

แอดมินเอารูปรถไฟฮอกไกโดช่วงเสาร์อาทิตย์มาให้ดู ก็ต้องยืนอย่างงั้นแหล่ะ คนทะลักถึงประตู ทะลุถึงห้องน้ำ ทะเละถึง.. ><; บางขบวนไม่มีตู้จองหรือจองไม่ได้ก็ต้องรีบไปต่อแถวที่ชานชาลากันนะ 

ถ้าใครจะซื้อ JR pass (สำหรับนั่งรถไฟ JR unlimit) ก็ต้องซื้อจากไทยไปนะ (passอื่นๆส่วนใหญ่ซื้อในญี่ปุ่นได้) เวลาซื้อเราจะได้เป็น'ตั๋วสำหรับแลก' พอบินไปถึงญี่ปุ่นเราค่อยเอาไปแลกเป็น JR pass อีกที ซึ่งตั๋วสำหรับแลกนี้มีเวลาแค่ 90วันนะ (ระวังอย่าซื้อล่วงหน้านานเกิ๊น!)

บางสนามบินมีเคาเตอร์ให้แลก บางสนามบินต้องยอมควักค่ารถไฟเข้าเมืองไปก่อนนะ ซึ่งถ้าดูในเว็บก็จะมีบอกว่าแลกที่ไหนได้บ้าง แต่ละที่เปิดกี่โมง

JRpass จะบอกวันที่เริ่มใช้ที่เราเลือกไว้กับวันหมดอายุ รวมถึงบอกเงื่อนไขการใช้ ซึ่งพนักงานตรวจตั๋วในรถไฟแถบ 'บ้านนอก'บางคนอาจไม่รู้จัก แล้วจะมาเก็บเงินเราก็อย่าไปยอม ให้โชว์ด้านภาษาญี่ปุ่นให้เค้าอาจซร่ะ ><; แอดมินเคยเจอเค้าก็วอร์ๆคุยกันชาติเศษ สุดท้ายโอเค แต่ไม่มีขอโทษซักคำ..ให้ยืนรอตั้งนาน ชิ!

แต่ที่New Chitose Airportแห่งนี้มีเคาเตอร์ "Midori no Madoguchi" ที่เป็นรูปคนสีเขียวนั่งแบบที่แอดมินแปะรูปแปะให้ดู เห็นสัญลักษณ์นี้ก็เข้าไปแลก JRpass รวมทั้งreserve รถไฟรอบที่เราplanมา โดยเอาhyperdiaที่เราพิมพ์ไว้ให้พนักงานดู โดยเผื่อเวลาการแลก JRpass กับสำรองที่ไว้ซักครึ่งชั่วโมงนะ เพราะบางทีต่อแถวนาน บางทีคนเยอะเค้าก็จะไม่ให้ reserveที่ 

สุดท้าย JR pass และ passport ต้องเอาไว้ติดตัว และห้ามหายเด็ดขาด!! 

รายละเอียดและเงื่อนไขอื่นๆของ JRpass (อีกเยอะ) ดูได้ที่ http://www.japanrailpass.net


23 July 2014

Doraemon Wakuwaku Sky Park



สวัสดีค่า!! ย่องมารีวิวก่อนตี3อีกแล้ว^^ คืนนี้แอดมินจะพาย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งด้วยการ์ตูนที่รู้จักกันดี 'โดราเอมอน'จ้า! ใครไม่รู้จักแล้วไปดูภาคที่ฝรั่งทำขึ้นใหม่ตอนนี้อาจเห็นทานูกิสีฟ้าของเรากลายเป็นแมวน้ำ 'โนบิ'ถือส้อมแทนตะเกียบ (แอดมินดูตอนแรกไปแล้วก็ไม่ได้แย่นะ สนุกเหมือนเดิมจ้า!)

กลับมาที่รีวิวทริปของเรา ซึ่งแอดมินยังอยู่ในสนามบินนิวชิโตเซ ชั้น3 (มีเวลาพอสมควรเพราะต้องรอรถไฟ><) เดินต่อใน Smile Road ซึ่งเชื่อมฝั่งในประเทศกับฝั่งระหว่างประเทศก็จะพบกับ "Doraemon Wakuwaku Sky Park" สวนสนุกเล็กๆที่จะเติมเต็มวันดีๆขึ้นมาได้ทั้งวัน 

ด้านหน้ามีเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติ ก็กดไปเลยคนละ 600เยน มีปุ่มเลือกเป็นภาษาอังกฤษจ้า! (แต่ถ้าไปเจอที่อื่นซึ่งตู้เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน แล้วอยากซื้อตั๋วราคาผู้ใหญ่ธรรมดาก็ให้ลองเลือกอันบนซ้ายสุด ส่วนใหญ่จะใช่ 55+)

พอเดินเข้าประตูไปด้านในแอบเล็กๆนะ แต่มีเด็กๆเต็ม ส่วนใหญ่เป็นโซนให้ถ่ายรูปเต็มไปหมด จริงๆเค้าให้บัตรถ่ายภาพรวมกับพี่โดราเอม่อนมาด้วย แต่ดูเหมือนถ้าแอดมินรอถ่ายรูปก็จะตกรถไฟ เลยต้องบายจ้า T.T

จริงๆมีโซนด้านนอกด้วยนะ แต่น่าจะเหมาะเป็นที่วิ่งเล่นของเด็กๆมากกว่า (ใครพาลูกไปแนะนำเลยนะ) แอดมินเลยเดินต่อไปเรื่อยๆก็เจอโซน 'Royce Chocolate World' ซึ่งมีทั้งร้านของฝาก และโซนเครื่องจักรที่โชว์ให้เห็นความลับการผลิตช็อกโกแล็ตที่อร่อยเทพยี่ห้อนี้ (ดูเพลินมากเกือบตกรถไฟอีกเช่นกัน)^^















22 July 2014

Toya Lake



วันนี้ขับรถเที่ยวใน Toya, Hokkaido ฟินส์ค่าา.. ( ^ω^ )

21 July 2014

รีวิวทริป Unseen Japan (21-29 June 2014) // Smile road



สวัสดีค่ะ! คืนนี้ได้ฤกษ์รีวิวทริป unseen ล่าสุดอย่างเป็นทางการซร่ะที 55+ (ไปตั้งแต่ 21-29 มิ.ย.แล้ว พึ่งหาฤกษ์ได้><;) ใครที่พึ่งไลค์เพจเข้ามาใหม่ก็บอกได้เลยว่าแอดมินอัพเพจดึกมากก..ก รีวิวยาวมากก..ก ก็ไม่อยากจะเหมือนใคร ทั้งเนื้อหา ทั้งstyle 55+ (เข้าconcept เที่ยวญี่ปุ่นตามใจ by Japan Lover ไง ^^)

แอบอัพรูปเบาๆวันละนิดพอนะ แต่จะแชร์ความสนุกหรือประสบการณ์&เทคนิคการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองใส่ให้แทนจ้า 

เริ่มด้วยแอดมินจองตั๋วล่วงหน้า 3เดือนได้ คือซื้อตั๋วทุกอย่างที่ซื้อได้เพราะตอนนั้น Vat มันยัง5%อยู่ (ตอนนี้ขึ้นเป็น8% ปีหน้าไม่รู้เป็น10%ปล่าว?) โรงแรมก็จองด้วยนะเพราะจำนวนคนที่ไปเป็นเลขคี่ ถ้าจองกระชั้นชิดห้องนอนแบบ 3คน (ถูกๆ) จะหายาก!

และแล้วก็ถึงวันบิน (คืนวันที่21) ถึง New Chitose Airport เช้าวันที่22 (ด้วยตั๋วบินตรงของการบินไทย ถึงเวลาดี8.30น. ไม่มีดีเลย์จ้า!) ซึ่งพอถึงสนามบินเพื่อนๆของแอดมินก็ขอเวลาเสริมสวยแทนการเที่ยวจร้า ><; แอดมินผู้ไม่ได้planเรื่องนี้มาก่อนเลยต้องเที่ยวเองตั้งแต่ก้าวแรก 55+

เดินเล่นชั้น3 ของสนามบิน "Smile Road" ดูของฝาก Hello Kitty, Steiff อะไรไปเรื่อย จนมาเจอแถว (ยาวมาก) หน้าร้านราเมงแห่งหนึ่งทั้งๆที่ร้านข้างๆเงียบเหงา ก็สำนึกได้เลยว่าตัวเองถึงญี่ปุ่นแว้ว!!

ก็คนญี่ปุ่นเค้าจะกินเฉพาะร้านที่อร่อยหน่ะสิ แอดมินไม่ศรัทธากับร้านคนเยอะเลยต้องผิดหวังบ่อยๆ 55+ ดังนั้นถ้าใครมีเวลาแอดมินแนะนำให้ต่อแถวดีกว่านะ

เกือบลืมบอกว่านี่คือโซน "Hokkaido Ramen Dojyo" ซึ่งรวบรวมราเมงร้านดังมาไว้ที่สนามบินแห่งนี้ แถวยาวๆนี่มาจาก Ebisoba Ichigen คนเยอะมั๊ก บ่งบอกความอร่อย!!







20 July 2014

Fruit picking

แอดมินพึ่งจะรู้ว่า'เชอรี่สด'รสมันไม่เหมือนเชอรี่บนไอติม Swensen's! (ー ー;) โอ้ ฉันพลาดของอร่อยไปเพียบ!

ถ้าไปญี่ปุ่นฤดูร้อนเพื่อนๆก็จะได้เพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้กินสดๆในสวนแบบบุ๊ฟเฟ่ต์ค่ะ ^^ ซึ่งแอดมินเอาบรรยากาศสวนแห่งนึงในเมือง Niki มาให้ดู (ขับรถไปซัก 20นาทีจาก Otaru)

เค้าจะเอาผลไม้มาวางเรียงให้ผู้ที่ผ่านไปมาเลือกซื้อได้ มีพนักงานขายตั๋ว (บางที่ก็คนขายผลไม้ หรือเจ้าของสวนนั่นแหล่ะคนเดียวกัน) บางที่ไม่มีตั๋ว แค่จ่ายเงิน เค้าก็จะให้อุปกรณ์ พร้อมแนะนำว่าตอนนี้มีอะไรกินได้ วิธีเก็บยังไง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นออแกนิค คือเก็บแล้วกินได้เลย ไม่ต้องล้าง!!!

แม่เจ้า'ออแกนิค'แอดมินเข้าใจค่ะ แต่ไม่ล้างเนี่ย แอดมินเหว๋อ! เพราะบางทีมีใยแมงมุม เค้าก็แค่ใช้มือรูดออก กรี๊ด! แถมยังมีการบอกอีกนะว่าอันที่มีแมงมุมจะอร่อย 55+ แต่ก็จริงค่า! แอดมินชิมองุ่นทั้งสวน อันที่อร่อยคือที่มีแมงมุมจริงๆ (>_<)

แล้วก็ค้นพบวิธีกินองุ่นออแกนนิคด้วยค่ะ คือตัดลงมาทั้งพวง เด็ดมาเป็นลูก เอาด้านจุกมาจ่อปาก แล้วบีบเข้าปากเลย ไม่ต้องนั่งแกะเปลือกทีละลูกให้เสียเวลา 55+

ราคาบุ๊ฟเฟ่ต์ผลไม้แบบนี้มีตั้งแต่ 500-1000เยน (วันนั้นแอดมินเลือก 700เยนเอาสวนที่มีแต่องุ่นหลายๆพันธุ์ เพราะตอนนั้นไม่คิดว่าเชอรี่จะอร่อยงี้ แงๆ ><;) 

ราคาขึ้นกับว่าสวนนั้นมีอะไร บางสวนมีแค่อย่างสองอย่างอาจถูกหน่อย บางสวนที่มีผลไม้ให้เลือกกินได้หลายชนิด หรือวิวดี หรือชื่อดังราคาก็จะแพงขึ้น ซึ่งที่ญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้ยาเร่งแบบไทยนะคะ ดังนั้นถ้าอากาศเปลี่ยนแปลงผลไม้ก็อาจออกผลช้าหรือเร็วกว่าปกติได้ค่ะ

ล่าสุดแอดมินไป Sobetsu (ขับรถ15จาก Toya St.) แต่วันนั้นสตอรเบอรี่ดันเล็กอยู่ซระงั้น ><; สวนอื่นเช่น สวนลูกแพร์หรือส้มของ Wakayama ก็ดังนะ แต่กลัวกินลูกเดียวอิ่มเดี๋ยวไม่คุ้ม  เลยไม่ไปดีกว่า แฮะๆ 

สุดท้ายก่อนกลับไทยเลยซื้อเชอรี่มาแพ็คนึง 700เยน ส้ม3ลูก 200เยน บลูเบอรรี่แพ็คนึง 500เยน กินแล้วฟินน์เหมือนกัล 55+

17 July 2014

Harry Potter // Shirohige fall

ช่วงนี้ใครๆก็พูดถึง "Harry Potter" โซนใหม่ของ Universal Studios ที่โอซาก้า แต่ใครไปช่วงนี้ต้องจองตั๋วล่วงหน้ากันผิดหวังนะ! (เดี๋ยวหาว่าแอดมินไม่เตือน)

แอดมินเลยพาหนีความวุ่นวายต่อจากเมื่อวาน ขับรถตรงไปอีกนิดก็จะเจอน้ำตกหนวดขาว "Shirohige" ซึ่งวิวน้ำตกอาจจะดูเล็กๆเพราะเป็นมุมมองลงจากสะพาน แต่วิวภูเขาด้านหลังนี้งดงามหาคำบรรยายไม่ได้ ^^

เดินเล่นเรื่อยๆเจอดอกแดนดิไลออน แอดมินก็ย่อตัวลงไป "เป่าเล่น" ..นี่คือที่เค้าเรียกกันว่า "ความสุข" ของชีวิตสินะ

Cr:
ユニバーサル・スタジオ・ジャパン / Universal Studios Japan (USJ)

16 July 2014

Blue pond @ Biei

เฉลยรูปเมื่อคืน: "Blue pond" สระน้ำสีฟ้า ซึ่งขับรถจากBiei St.มาแค่ 30นาทีก็จะพบกับธรรมชาติอันน่าทึ่งนี้

แอดมินเจอสุนัขจิ้งจอกน่ารักที่นี่ด้วย (บอกแล้วว่าธรรมชาติจริงๆ ><;) เดินไปก็คุยกับเพื่อนไปว่า 'มันกินอะไรนะ?' แล้วภาพนิทานตอนเด็กๆก็ปรากฏขึ้นในหัวทันที.. เอาเป็นว่าอยู่ห่างๆมันดีกว่า 55+ (จริงๆมันก็คงไม่อยากอยู่ใกล้เราหรอก มาให้เห็นแว๊บเดียวก็หายเข้าป่าไปเลย^^)

วิธีขับรถจาก Biei St.ไป Blue Pond (青い池)
(บอกนิสส์นุงเพราะหาข้อมูลยาก แต่จริงๆไปง่าย^^)
ถ้ารถใช้ Mapcodeได้ก็ดีไป หรือถ้ามีเน็ทก็สามารถเข้า FB ของ 青い池 ซึ่งจะสามารถคลิ๊กให้นำทางผ่าน google map ได้เลย แต่ถ้าไม่มีเน็ทก็ให้ขับตามป้าย Shirogane ไปเรื่อยๆ จนเจอ Information Center (Tel:0166-94-3355 ให้เบอร์ไว้เผื่อใส่ในเนวิเกเตอร์) ถึงแล้วก็แวะเข้าห้องน้ำ & ถามพนักงานดู 55+ (จริงๆขับตรงไปอีกซัก 5นาทีก็ถึงจ้า!)

ps1. รูปสวยสู้ตามองไม่ได้เลยนะ! ของอย่างนี้ก่อนตายต้องมาซักครั้ง 青い池 ><;

ps2. ลำธารนั้นเดินต่อจากบ่อไปอีกนิดเดียว น้ำเป็นสีฟ้าเล็กๆเหมือนกัน แต่ที่งามคือฉากหลังค่ะ.. ซึ่งเทือกเขา ณ จุดนี้รวมถึงระหว่างทางจาก Biei St.มา ขณะนั้นยังมีหิมะกิ๊ฟๆให้ได้เพลินตลอดเส้นทาง.. ฟินน์จุง ( ^ω^ )

15 July 2014

ทายสิ..ที่ไหนเอ่ย?

แอดมินส่งรูปสวยๆจากทริปล่าสุดมาให้ดูก่อนนอนนะคะ ( ^ω^ )
 มีใครรู้มั้ยว่าที่ไหน?

พรุ่งนี้มาเฉลยค่ะ (^з^)-☆

14 July 2014

เที่ยวญี่ปุ่น เลิกหาร3

ความสุขของการเที่ยวญี่ปุ่นอีกอย่างคือการ 'ชัอปปิ้ง'และการหาขนมกินไปตามทางค่ะ และจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าไม่คำนวณเป็น "เงินบาท" 55+ 

แอดมินเลิกคำนวณเปลี่ยนหน่วยเงินจากเยนเป็นบาทไปหลายปีแล้วค่า^^ วิธีคิดว่าอะไรถูกหรือแพงให้เทียบกับข้าว 1ชามแทน ><~

แม้การคำนวณคร่าวๆเพื่อเปลี่ยนหน่วยเยนเป็นบาทจะง่ายมาก คือหาร 3 เอา (ณ rate ปัจจุบัน) แต่พอหารมาเจอเค้กชิ้นละ 250บาท โค้กขวดละ 50บาท อาจจะกินไม่ลง ><; หรือค่าเข้า DisneyLand 2พันกว่าบาท ค่าเข้าวัดร้อยกว่าบาท อาจทำให้คุณลังเลที่จะพบกับความสนุกข้างใน 55+

ดังนั้นแอดมินแนะนำให้ใช้หลักการ "เทียบกับของอย่างอื่น" เช่น 'ข้าว1ชาม' ดีกว่าค่ะ!!

เช่น พวงกุญแจ '300เยน' นี่น่ารักนะ 'ถูก'ด้วย! (เมื่อเทียบกับราเมงที่พึ่งกินไปมื้อกลางวันชามละ 700เยน)

แล้วถ้าอยากซื้อของแพงขึ้นล่ะ (คือแพงแต่อยากได้ ><') ก็ให้เทียบกับข้าวปลาไหลจ้า! (ราคาข้าวปลาไหลมีตั้งแต่ชามละพันกว่าเยนยัน3-4พันเยน^^)

แต่ถ้าเป็นของใช้ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม หรือนาฬิกาที่หาซื้อได้ในไทย อันนั้นอนุโลมให้คำนวณเทียบได้

แต่ปกติแล้วถ้าเห็นขนมหรืออะไรจุ๊กจิ๊กน่าซื้อ ก็เทียบกับข้าวชาม1ชามเถอะ จะได้ช้อปปิ้งและเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมีความสุข [แค่อย่าเทียบกับข้าวปลาไหลบ่อยล่ะถ้าไม่อยากให้กระเป๋าฉีกไปมากกว่านี้!] ( ^ω^ )

ปล. เผื่อใครไม่รู้จริงๆ: ข้าวที่ญี่ปุ่น 1ชาม ราคาเฉลี่ยประมาณ 700เยนถึงพันเยน หาร3แล้ว ตกมื้อละ 2-3ร้อยกว่าบาท!!! - -" 
(..บอกแล้วว่าอย่าหาร 55+)

12 July 2014

ตื่นเช้ามาพร้อมกับข่าวอันน่าตกใจอีกแล้วค่ะ โดยเมื่อเช้าตี5กว่าๆ (ที่ญี่ปุ่น) มีแผ่นดินไหว6.8M บวกซึนามิเบาๆพัดเข้าทางตะวันออกของญี่ปุ่น (ภูมิภาคMiyagi) จังหวัดที่กระทบหนึ่งในนั้นคือฟุกุชิมะซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แม้ไม่ได้โดนตรงๆ แต่ก็มีการเตือนซึนามิและการอพยพคนออกจากแนวชายฝั่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุ (แผ่นดินไหวพร้อมซึนามิ20cm) ก็ได้ยกเลิกการประกาศเตือนภัยในเวลาต่อมา และทาง TEPCO (หน่วยงานไฟฟ้าและผู้ดูแลเตาปฏิกรนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ) ออกมาแจ้งว่ายังไม่พบความผิดปกติของเตาในขณะนี้

เพื่อนๆที่ไปแถวนั้นกรุณาติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดนะคะ ส่วนวิธีการรับมือแผ่นดินไหวขณะไปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นแอดมินเคยเขียนไว้แล้ว ไปดูย้อนหลังได้ที่
http://japanbylover.blogspot.com/2014/07/1500-ok.html?m=1

วันนี้จะมาสอนอีก 2 คำเผื่ออยู่ในเหตุการณ์จริงแล้วคนญี่ปุ่นเค้าอพยพกันจะได้รู้ คือคำว่าแผ่นดินไหว "จิชิน" ส่วนซึนามิก็ตรงตัว "ซึนามิ"

ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ (>人<;)

Cr: abc.net.au


คลิปของyoutubeโดนเจ้าของข่าวเค้าลบไปแล้วง่ะ T.T


11 July 2014

ตามหาลูกฮัสคัป

ความสนุกของการเที่ยวบางทีเกิดจากการเก็บ'mission'นะคะ 55+ เพื่อนญี่ปุ่นของแอดมินแนะอะไรน่าสนใจ นั่นแหละคือมิชชั่นของแอดมิน^^ 

ครั้งล่าสุดคือการหา'ลูกฮัสคัป' ซึ่งเค้าแนะนำมาว่าอร่อยพอๆกับบลูเบอรี่ (สีคล้ายๆกันแต่ลูกยาวกว่า แอดมินแปะรูปมาให้ดู) ซึ่งญี่ปุ่นไม่นิยมผลไม้นอกฤดูกาลจึงเป็นความท้าทายว่าต้องหาให้เจอในครั้งนี้ เพราะฮัสคัปออกผลตรงช่วงเวลาที่แอดมินไปพอดี (ปลายเดือน6-กลางเดือน7)

และโชคดีมากที่คุณป้าร้าน Nagashi Somen แนะนำร้านไอศกรีมข้างๆที่มี 'Huscup Soft Cream' (Special) ซึ่งพิเศษเพราะมีเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น!

แม้อิ่มท้องจะแตกอยู่แล้ว แต่เมื่อผู้หญิงเจอของหวานที่ถูกใจก็จะสามารถ 'งอก' กระเพาะของหวานมาได้ตลอดเวลา ><~

รสชาติฮัสคัปคล้ายบลูเบอรี่กะลูกเกดรวมกัน (ยากจะบรรยาย55+) เอาเป็นว่าอร่อยมาก.. อิอิ^^ แม้ไม่ได้กินลูกสดๆ แต่แยมพร้อมลูกฮัสคัปเสริฟบนไอศกรีมแบบนี้ก็ถือว่า 'Mission complete' และฟินส์ค่า! 

Cr. & thanks for Huscup's pic:
hokkaido-kajyu.net